เจ้าของรถจำนวนไม่น้อยชื่นชอบการลงมือล้างรถด้วยตัวเอง เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงินจากการนำรถเข้าคาร์แคร์แล้ว ยังถือเป็นกิจกรรมออกกำลังกายชั้นเยี่ยมช่วยเสริมสร้างสุขภาพได้อีกต่างหาก แต่ทราบหรือไม่ว่าการล้างรถก็มี "ข้อห้าม" ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับสีรถในระยะยาว ซึ่ง ได้รวมรวมเอาไว้ 4 ข้อดังต่อไปนี้

1. ห้ามล้างรถกลางแสงแดด

     การล้างรถกลางแสงแดดจ้า นอกจากจะทำให้ร้อนผิวกายแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสีตัวถังในระยะยาวอีกด้วย เนื่องจากน้ำแชมพูจะแห้งเร็วกว่าปกติ ไม่สามารถล้างน้ำเปล่าได้ทัน จนอาจทำให้หลงเหลือคราบแชมพูบนตัวถังรถได้ และต่อให้สามารถล้างน้ำเปล่าได้อย่างหมดเกลี้ยง ก็มักจะเช็ดแห้งไม่ทันอยู่ดี ส่งผลให้เกิดคราบน้ำบนตัวถังรถที่ยากต่อการเช็ดออกนั่นเอง

2. ห้ามฉีดน้ำใส่ล้อขณะผ้าเบรกร้อน

     การฉีดน้ำล้างล้อขณะที่ผ้าเบรกกำลังร้อนอยู่ อาจส่งผลให้จานเบรกคดได้ ผลที่ตามมาคือ รถจะเกิดอาการสั่นขณะเบรกจนเป็นที่น่ารำคาญ จำเป็นต้องนำรถไปเจียรจานเบรกเพื่อให้กลับมาเป็นปกติ (แต่หากจานเบรกบางเกินกว่าที่จะเจียรได้ ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนจานเบรกใหม่ลูกเดียว) ด้วยเหตุนี้ เจ้าของรถจึงควรจอดรถพักไว้เพื่อให้จานเบรกเย็นลงก่อน จากนั้นจึงค่อยเริ่มขั้นตอนการล้างรถ จะช่วยป้องกันปัญหาจานเบรกคดได้

3. ห้ามใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถแทนการล้างรถ

     เจ้าของรถจำนวนไม่น้อยใช้วิธีนำผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำ จากนั้นก็ละเลงเช็ดรถทีละส่วนๆ ซึ่งเป็นวิธีการล้างรถที่ "ผิดมหันต์" เพราะนอกจากคราบสกปรกบนตัวถังจะทำให้เกิดรอยขนแมวแล้ว ยังอาจส่งผลให้เกิดคราบไคลในระยะยาวได้อีกด้วย ซึ่งเป็นคราบที่ยากต่อการกำจัด และเสี่ยงทำให้สีตัวรถซีดจางอีกด้วย

4. ห้ามใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่น

     ไม้ขนไก่เหมาะสำหรับการปัดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้กับตัวถังรถโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถเกิดรอยขนแมวได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อตัวถังรถมีความชื้นเกาะอยู่ เพราะนอกจากจะปัดฝุ่นไม่สะอาดแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความสกปรกให้กับตัวรถอีกต่างหาก

     ครั้งต่อไปที่คุณจะเริ่มลงมือล้างรถด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ อย่าลืมข้อห้ามเหล่านี้ด้วยล่ะ รถของคุณจะได้มีสีสวยๆ อยู่ในสภาพดีไปอีกนานแสนนาน

อ้างอิง เคล็บลับยานยนต์